หลังจากแจ้งเกิดได้เต็มตัวใน The Road (2009) หนังหายนะฟอร์มเล็กที่กลายเป็นขวัญใจนักวิจารณ์และคน ดูทั่วโลก ผู้กำกับ ‘จอห์น ฮิลโค้ท’ ก็หายไปซุ่มเตรียมงานสร้างหนังจิ๊กโก๋บ้านนอกย้อนยุค เรื่องนี้อยู่พักใหญ่ ก่อนจะได้ตัวนักแสดงหนุ่มที่ตั้งใจจะหันหลังให้หนังต ลาดอย่าง ‘ไชอา ลาบัฟ’ มารับบทนำ ร่วมด้วยทีมนักแสดงคุณภาพอีกเพียบทั้ง ทอม ฮาร์ดี้, กาย เพียซ, แกรี่ โอลด์แมน, มีอา วาชิโควสก้า และขวัญใจของผมอย่าง เจสสิก้า แชสเทน โดยเรื่องราวจะย้อนกลับไปเล่าเรื่องจริงที่เกิดขึ้นใ นสังคมอเมริกันยุค 30 ที่การต้มเหล้าขายเป็นเรื่องผิดกฎหมาย แต่ผู้คนในเมืองเล็กๆ ของรัฐเวอร์จิเนียก็ดูจะไม่สนใจและยังคงขายเหล้าคุณภ าพของพวกเขาตามปกติ เช่นเดียวกับสามพี่น้อง ‘บอนดูแรนด์’ ที่ยึดอาชีพพ่อค้าเหล้ามาอย่างยาวนาน จนกระทั่งการมาถึงของเจ้าหน้าที่รัฐบ้าอำนาจ ‘ชาลี เรคส์’ ที่ทำให้ความสงบสุขในหมู่บ้านนี้พังพินาศลง หนังสร้างบรรยากาศสังคม ความเป็นชนบท และกลิ่นอายของยุคคาวบอยเรืองอำนาจได้ดี ทั้งยังผสมผสานเรื่องราวทั้งดราม่า อาชญากรรม แอ็คชั่น ใส่เข้ากับความสัมพันธ์อันแนบแน่นของพี่น้อง ‘บอนดูแรนด์’ ไปตลอดการดำเนินเรื่อง ทำให้หนังออกมาดูมีมิติ และครบรสหลากอารมณ์ นอกจากนี้การเล่าเรื่องก็ยังออกมาราบรื่น ไม่ติดขัด และเก็บรวบรวมองค์ประกอบน้อยใหญ่เพื่อเดินหน้าไปสู่จ ุดพีคในตอนท้ายได้ดี ขณะที่การกระจายบทบาทของตัวละครก็ทำได้พอเหมาะพอดี และสร้างคาแร็คเตอร์ที่่ชัดเจนจับต้องได้ให้กับทุกๆ ตัวละคร นำมาสู่ทุกๆ การกระทำของตัวละครที่ทำให้คนดูเข้าใจเหตุและผลของคว ามคิด การตัดสินใจนั้นๆ น่าเสียดายที่ทั้งหมดทั้งปวงที่ว่ามาล้วนอยู่แต่ในกฎ กรอบของสูตรสำเร็จ และยังไม่มีฉากไหน หรือจังหวะใดของหนังที่สร้างเอกลักษณ์หรือภาพจำเป็นข องตัวเองได้ หนัง ค่อนข้างเดาง่าย และอาจยังไม่ทำให้คนดูรู้สึกตื่นเต้น ตื่นตาตื่นใจ หรือประทับใจได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย แม้จะได้การแสดงที่เป็นธรรมชาติจากทีมนักแสดง (โดยเฉพาะกาย เพียซ ที่ออกมาทีไรก็กวนเกรียนได้ใจ) หรือโปรดักชั่นเนี้ยบๆ เข้ามาช่วยแล้วก็ตาม อย่างไรก็ตาม ในความเดาง่ายตามสูตรนี้เอง อย่างน้อยก็ยังเป็นข้อดีที่ทำให้หนังทำออกมาได้มาตรฐ าน เข้าถึงความต้องการของคนดูได้ดีพอ ทำให้โดยภาพรวมแล้ว Lawless ยังถือเป็นหนังแมนๆ ที่ดูสนุกคุ้มค่า อาจไม่เข้าขั้นคลาสสิคเหมือนใคร แต่ก็ยังได้ใจคอหนังในวงกว้าง โดยเฉพาะคอหนังแกงค์สเตอร์ ที่นับวันยิ่งหาหนังลักษณะนี้ดูได้ยากเต็มทน
ตอนที่ 2
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น